hermes-วิธีตรวจกระเป๋าแบรนด์เนมแท้

วิธีตรวจกระเป๋าแบรนด์เนม แท้-ปลอม ใช้ได้กับทุกแบรนด์ ทุกใบ!

         ปัจจัยในการดูกระเป๋าแบรนด์เนมมีหลายอย่าง เช่น ราคา สภาพ ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของ “แท้หรือปลอม” เพราะไม่ว่าราคาจะถูกหรือแพงแค่ไหน ถ้าหากว่าได้ของปลอมมาถือก็ไม่คุ้มค่าใช่ไหมหละคะ ยิ่งปัจจุบัน ของลอกเลียนแบบค่อนข้างมีเยอะและทำได้เหมือนมาก บางครั้งถ้าไม่ไปจับและดูให้ลึก อาจจะดูไม่ออกกันเลยทีเดียว

        ทาง Brandname for cash จึงนำ 4 วิธีตรวจกระเป๋าแบรนด์เนมพื้นฐาน แท้-ปลอม มาให้ทุกคนดูกัน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ !!

ขั้นตอนที่ 1 การดู
ตรวจดูรายละเอียดกระเป๋า เนื้อกระเป๋า หนังกระเป๋า และอุปกรณ์ต่างๆ ว่าครบหรือไม่

ประเทศทางฝั่งยุโรป เวลาซื้อขายของมือ 2 อาจจะเจอการที่อุปกรณ์ไม่ครบได้ เช่น กล่อง ถุงกระดาษ หรือใบเสร็จ เพราะจะมีการนำกระเป๋าไปตรวจเพื่อได้รับใบรับรองก่อนเท่านั้น หากอุปกรณ์ไม่ครบ ต้องขอใบรับรองและตรวจเช็คใบรับรองนั้นให้ถี่ถ้วน

ทางฝั่งเอเชีย จะนิยมในเรื่องของอุปกรณ์ ครบ มีกล่อง ถุง และใบเสร็จ เหมือนซื้อจาก Shop

แต่! ต้องระวังของปลอมที่มีอุปกรณ์ครบเช่นกัน บางครั้งตัวกระเป๋าเป็นของปลอม แต่อุปกรณ์ทั้งหมดที่ได้รับกระเป๋าเป็นของแท้ เพราะฉะนั้นต้องไปดูต่อกันที่ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนที่ 2 การดูลักษณะภายใน

การเปิดดูด้านในกระเป๋าว่าลักษณะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งกระเป๋าแต่ละใบจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ควรศึกษาว่าของแท้มีลักษณะอย่างไร สามารถหาดูได้ตาม Youtube หรือตาม google อย่างละเอียดว่าของแท้ของปลอมมีจุดไหนที่เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร หรือถ้าหากดูแล้วยังไม่แน่ใจ ต้องดูต่อในขั้นตอนที่ 3

ขั้นตอนที่ 3 ดูรายละเอียดเจาะลึก

ขั้นตอนนี้คือการดูเจาะลึกเข้าไปในกระเป๋า เช่นสแตมป์ของแบรนด์ว่าใช้ฟอนต์ตรงตามที่ orginal ใช้หรือเปล่า ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดูง่ายและเห็นได้ชัดที่สุด เพราะของแท้จะใช้ฟอนต์ที่มีหลายแบบผสมกันหรือเป็นฟอนต์ของ orginal ที่สามารถลอกเลียนแบบได้ยาก
ต่อมาคือความลื่นไหลของซิป บางรุ่นซิปของแท้อาจจะฝืด แต่ของปลอมลื่นกว่า ตัวปั้มและการดูรหัสของกระเป๋า เนื่องจากของปลอมส่วนใหญ่จะทำรหัสเดียวกันหมด นอกจากนั้นอย่าลืมดูไปถึงอุปกรณ์ ตัว Tag ใบเสร็จต่างๆ เพื่อความมั่นใจว่าเป็นของแท้ 100%

ขั้นตอนที่ 4 การดม

หากว่าเป็นกระเป๋าหนังสัตว์หนังแท้จะมีกลิ่นที่เฉพาะตัวมาก ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นกระเป๋าหนังแท้ของแบรนด์ต่างๆจะมีกลิ่นที่แตกต่างกันไปด้วยเนื่องจาก ตัวพื้นของของกระเป๋ามาจากส่วนของสัตว์ที่แตกต่างกัน การฟอกสี การทำกรรมวิธีต่างๆของแต่ละแบรนด์จะทำให้แตกต่างกันอีก